หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ตอนที่ 3 พี่สาวจิ้งจอกอมตะ

“ หลิวอี้เธอพาฉันไปที่นี้ได้ไหม ”

หลิ่วอี้อึ้ง จากนั้นมองไปยังหม่ายี่ฉวนผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา เธอสวมชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ที่ทำให้ตัวเธอดูน่ารัก มหัศจรรย์และน่าหลงใหล ตัวเธอยืนตรงมุมถนนและชี้ไปยังป้ายของโรงแรม Hanting Express

ปะ..ปะ..ไป..ตรงนี้

...ไปตรงนั้นทำไมละ?..

“ ได้ไหม? ฉันอยากไปตรงนั้นน่ะ ”

หม่ายี่ฉวนจูงมือหลิวอี้ไปด้วยท่าทางเขินอาย

เธอน่ารัก จนทำให้เขาแทบทนไม่ได้

“ ดะ..ได้เหรอ ”

หลิวอี้กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อมองไปยังคนงามในชั้นเรียนที่เขาถวิลหา

หม่ายี่ฉวนเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมในชั้นของเขาและยังเป็นเพื่อนบ้าน

เป็นเด็กสาวแสนสวย ที่เขาแอบชอบเธอมาแสนนาน
แต่จะว่าไปหลิวอี้ก็แทบนึกไม่ออกแล้วว่าเขาชอบเธอมากนานเท่าไหร่แล้ว ดูเหมือนว่าจะแอบชอบตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาเป็นเพื่อนบ้างของเขา

แต่ก็นะ เธอมักจะทำตัวเย็นชาใส่เขาเสมอ

แล้วเกิดอะไรขึ้นวันนี้? ที่ทำให้เธอลากเขาจะเข้าโรงแรม Hanting Express ด้วยกัน?

หรือ..นี้จะเป็นเป็นช่วงเวลาชัยชนะของคนขี้แพ้ในตำนานงั้นหรือ

หลิวอี้รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที 

หม่ายี่ฉวนยิ้มให้กับหลิวอี้ด้วยรอยยิ้มที่สวยที่สุด ทำให้หลิวอี้หลงใหลจนแทบละลาย

“ ฉันรู้นะ..ว่านายมีความรู้สึกให้ฉัน...และนายก็ดีกับฉันมาก จนรู้สึกว่าถ้าไม่มีอะไรจะให้นาย ก็นี้แหละ..ฉันจะให้ฉัน กับนาย ”

หม่ายี่ฉวนพูดพลางหน้าแดงเป็นลูกแอปเปิ้ล 

“ ตะ...ตะ...แต่นั้นจะดูไม่ดี คนอื่นก็จะมองว่าฉันโรคจิตน่ะสิ ”

“ งั้นก็ช่างมัน..กลับบ้านกันเถอะ ”
“ ปะ..ไปสิ..ไปหาห้องกัน ”

“ นายไม่กลัวถูกมองเป็นโรคจิตหรอ ”

“ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรต้องกลัว ฉันมันก็โรคจิตอยู่แล้ว ”

ช่วงเวลาที่หลิวอี้แทบอยากจะใช้สัญชาตญาณสัตว์ป่า เขาคว้าข้อมือหม่ายี่ฉวนและเข้าโรงแรมไปเพื่อหาห้องว่าง 

หลังจากเข้ามาในห้องเล็กๆ ที่อบอุ่นและแสนจะโรแมนติกหลิวอี้ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขากอดร่างอันน่าอร่อยของหม่ายี่ฉวนและแทะโลมร่างของเธออย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน  เขาก็ได้ยินเสียงป้าๆ ออกมาจากปากของหม่ายี่ฉวน

“ ตายแล้ว ตาย พ่อหนุ่ม จะบ้าหรอ อย่าวิ่งไปกัดใครเขาไปทั่วสิ ”

เสียงนั้นที่กระทบหูของเขา ทำให้เขาตื่นขึ้น 

ลืมตาและค้นพบว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาเปลี่ยนแปลงไป

ห้องเล็กอบอุ่นแสนโรแมนติกที่มีเตียงรูปร่างกลมขนาดใหญ่หายไปเสียแล้ว

หม่ายี่ฉวนสาวงามที่น่าหลงใหลก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน

ค้นพบว่าตัวเองกำลังกอดป้าที่ใส่ที่รัดแขนสีแดง และปากของเขาที่กำลังจูบกับแขนของป้า 

เชี้ย นี้มันอะไรกันนี้ 

หลิวอี้ฟื้นคืนสติในทันที เขายืนขึ้นบนหญ้าในสวนสาธารณะ

“ ตื่นจากฝันกลางวันแล้วหรอ พ่อหนุ่มและนายก็ยังเป็นนักเรียนอีก ทำไมถึงมานอนอะไรบนพื้นหญ้าที่สวน ไม่พอยังจะมาลวนลามป้าอีก ”

 คุณป้าดึงที่รัดแขนขึ้นและเริ่มว่าสั่งสอนหลิวอี้

 “ เด็กสมัยนี้แบบพวกเธอนี้มันอะไรกัน จะไม่ทำให้พ่อแม่สบายใจกันบ้างเลยหรือไง ”

คุณป้าบ่นพล่ามมากมายในขณะที่หลิวอี้ก็ยังคงยืนงงอยู่ตรงนั้น

ฉันมาที่นี้ได้ไงกัน

อืม ใช่แล้ว เขาจำได้ว่า เมื่อวานนี้มีสาวสวยพาเขามาที่นี้

แต่ดูเหมือนสาวสวยคนนั้นจะฆ่าเขา

หลิวอี้สัมผัสหน้าอกของตัวเอง และพบว่ายังปกติดีมีเพียงแต่รูบนเสื้อของเขาเท่านั้น

บ้าจริง!

แปลกเหลือเกิน!

และเขาก็จำได้ในทันทีว่า ดูเหมือนว่าจะมีเด็กสาวมาช่วยเขาไว้

นี่....ฉันฝันไปใช่ไหม?

หลิวอี้แทบจะเสียสติ ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไปดี

“ นายฝันบ้าอะไรของนาย เจ้าคนไร้ประโยชน์ ไอเด็กหน้าโง่ ”

และช่วงเวลานี้เองทีหูของหลิวอี้ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคย

“ อ้ากก  ผี ”

หลิวอี้ตะโกนร้องออกมา 

“ เจ้าเด็กหนุ่ม เรียกป้าว่าผีงั้นหรอ ”

คุณป้าแสดงอาการไม่พอใจออกมาในทันที “ เฮ้อ เจ้าเด็กน้อย ป้าอุตส่าห์จะให้คำสั่งสอนดีๆแล้วเชียว ไม่เพียงแต่จะไม่ฟังที่สอน ยังจะมาเรียกป้าว่าผีอีก นายนี่ต้องหลงสาวอายุรุ่นวัยป้าๆ อย่างป้าแน่ๆ ใช่ไหม? เฮ้อ เมื่อก่อนตอนที่พี่สาวยังอ่อนวัยกว่านี้ ตัวพี่นี้ก็จัดว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งเหมือนกัน แม้ว่าจะแก่ขึ้นมาบ้างก็เถอะ แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่อยู่นะ เฮ้อ ไม่เป็นไร พี่เข้าใจดี ”

คุณป้าเริ่มจะ บ่น บ่น บ่นอีกครั้ง

แต่สำหรับหลิวอี้เสียงของป้าไม่ได้เข้าหูเขาสักนิด เนื่องจากเสียงของเด็กสาวที่ยังก้องในหูของเขา 

“ ผีงั้นหรอ พี่สาวคนนี้เป็นปีศาจจิ้งจอกอมตะต่างหากเล่า ”

หลิวอี้แทบจะล้มจับขึ้นมาจริงๆ 

กลางวันแสกๆ แท้ๆ เขาจะมาเห็นผีอะไรตอนนี้ 

มาคิดดูที่นี้อาจจะมืดไปหน่อย ใช่แล้วละ ต้องไปที่สว่างๆ กว่านี้เพื่อฆ่าเจ้าผีชั่วร้ายตัวนี้ลงได้

โดยไม่ทันที่จะได้ตัดสินใจอะไร และป้าคนเดิมก็คงยืนบ่นอยู่ตรงนั้นหลิวอี้หันหลังกลับและเริ่มออกวิ่ง

“ นี่ นี่!! พ่อหนุ่ม จะรีบวิ่งไปทำไมกัน?! อย่างน้อยทิ้งเบอร์ไว้ให้พี่สาวคนนี้ให้สักหน่อย จะได้ติดต่อกันได้บ่อยๆ ”

เสียงของป้าค่อยๆ ไกลออกไปเรื่องจากตัวของหลิวอี้

หลิวอี้ออกวิ่งเหมือนคนบ้า แต่ไม่ว่าจะวิ่งเท่าไหร่ เสียงของสาวสวยที่ก้องในหูของเขาก็ยังคงดัง

“นายจะวิ่งไปเพื่ออะไรกัน?! หยุดวิ่งสักที! ตายย ทำไมนายยังวิ่งอยู่แหละ! แถมยังวิ่งเร็วอีก! นายคิดว่านายเป็น หลิวเซียงหรือไง ?! จะวิ่งกระโดดข้ามรั้วไปอีกร้อยเมตรไหม?!”

เสียงนั้นที่ไล่ตามหูของหลิวอี้เหมือนกับเสียงของแฟรี่ที่ออกมาจากเกมเลย 

หลิวอี้กลัวจนแทบตาย จนจะวิ่งตกลงไปในสระน้ำของสวนสาธารณะ จากนั้น ควันสีแดงชาดพลันปรากฏ จากมือขวาของเขา เจ้าควันเริ่มก่อรูปร่างเป็นรูปสุนัขจิ้งจอก ลอยตัวอยู่กลางอากาศต่อหน้าของเขา

“ พระเจ้า ! ”

หลิวอี้ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น จนประคองตัวเองไม่อยู่นั่งทรุดไปกับพื้น

โชคยังดีที่ไม่มีผู้คนอยู่ที่สวนแห่งนี้มากนักในเช้าตรู่นี้ ไม่งั้นเขาคงจะตกเป็นเป้าสายตามากทีเดียว

“ เจ้าจะวิ่งหนีทำไม ? นี้ข้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ ?! ”

เจ้าควันที่มีรูปร่างเป็นจิ้งจอก เคลื่อนเข้ามาอยู่ตรงหน้าของเขาทำให้หลิวอี้รู้สึกกลัวจนเหงื่อตก 

“ แก...แกนี่มันตัวอะไรกันแน่ ”

หลิวอี้เค้นคำออกมาจากปากด้วยความกล้าหาญทั้งหมดที่มี

สวรรค์! จะต้องมาเจอกับผีกลางวันแสกๆ ขนาดนี้ นี่ฉันกำลังจะตายใช่ไหม?!

ไม่นะ! ไม่! ฉันยังไม่อยากจะตายทั้งๆ ที่ยังบริสุทธิ์อยู่หรอก

ยังไม่เคยจะจับมือนุ่มๆของหม่ายี่ฉวนด้วยซ้ำ

แต่ เมื่อวานได้จับหน้าอกผู้หญิงมาแล้วนี้นะ ถึงจะแบนก็เถอะ

แต่ก็ยังไม่อยากตายก่อนที่จะได้จับหน้าอกใหญ่ๆ นี่นา

หลิวอี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

พระเจ้า! ช่วยผมด้วยเถอะครับ!

ผมจะจุดธูปไปให้ เผารูปโซระ อาโออิไปด้วยเลยครับ!

หลิวอี้แทบจะขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลกให้ช่วยเหลือชีวิตของเขา และเจ้าจิ้งจอกก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“ เจ้านี่ จะสั่นทำไมกันหนักหนา จะมานั่งกลัวอยู่นั้น เป็นผู้ชายจริงรึเปล่า?! ให้ข้าบอกอะไรหน่อยนะ ข้าน่ะไม่ใช่ผีข้าเป็นปีศาจจิ้งจอกอมตะ ! ที่แสนบริสุทธิ์ แถมยังสวย อ่อนโยนและใจดีเป็นจิ้งจอกน้อยพันปีไงหล่ะ ! ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น